ท็อปส์ จัดทริปตามรอยพระบาท สถานีเกษตรหลวง ‘อ่างขาง’
ทุกสถานที่ เต็มไปด้วยเรื่องราวของพ่อ

     

ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และน้ำพระทัยอันเมตตาสูงสุด ต่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนดอย ทำให้ดอยอ่างขางในวันนี้ แปรสภาพจากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว สู่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและแหล่งเรียนรู้เกษตรที่สูง และเพื่อเก็บเกี่ยวเรื่องราวความทรงจำในเส้นทางรอยเท้าของพ่อ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จัด ท็อปส์ เอ็กซ์คลูซีฟ ทริป ตามรอยพระบาทครั้งที่ 7 ศึกษาเรียนรู้การดำเนินงานของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ผูกพันกับ ท็อปส์ มาอย่างยาวนาน พร้อมด้วยสุดยอดเชฟ เชฟเอียน-พงศ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย อาสาดูแลดินเนอร์มื้อพิเศษ ณ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้

 

ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด กล่าวว่า “ท็อปส์ จัด เอ็กซ์คลูซีฟ ทริป ตามรอยพระบาท ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยพาลูกค้าเดินทางไปตามเส้นทางที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยเสด็จ ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางแสนยากลำบากต่อการสัญจร แม้ตอนนี้จะถูกพัฒนาให้เดินทางสะดวกขึ้น แต่ยังคงเหลือร่อยรอยความทรงจำให้เราได้เดินตาม..แม้จะจัดทริปนี้ขึ้นเป็นครั้งที่ 7 แต่ครั้งนี้ทั้งคณะท็อปส์และลูกค้าเกิดความรู้สึกที่ต่างออกไปจากทุกครั้งที่ผ่านๆ มา ด้วยคุณูปการอันใหญ่หลวงของพระองค์ท่านไม่มีวันเลือนหายไปจากหัวใจเราชาวไทยทุกคน อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของทริปนี้ คือ เราอยากพาลูกค้ามาศึกษาเรียนรู้การดำเนินงานเกษตรที่สูง ทั้งผัก – ผลไม้ ปลอดสาร และออร์แกนิค ให้ลูกค้ามาพิสูจน์กับตา สัมผัสด้วยมือ ก่อนที่ผลผลิตทั้งหมดจะถูกนำไปจำหน่ายที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ โดยเริ่มกันที่ โรงเรือนรวบรวมพันธุ์ผัก จากนั้นเราเดินทางไปหมู่บ้านนอแล ชมแปลงผักอินทรีย์ของชาวเขาเผ่าปะหล่อง ได้ลองหยอดพันธุ์ผัก ปลูกผัก ซื้อและชิมผักสดๆ จากแปลงที่รสชาติหวาน กรอบ อร่อย ต่อด้วยการเดินทางไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านที่หมู่บ้าน ขอบด้ง ของชาวเขาเผ่าลาหู่ ที่ประกอบอาชีพปลูกผักเขตหนาว, สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์พระราชทาน 80 และเพาะเห็ด พอตโตเบลโล่” ซึ่งสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำล้ำค่าเกี่ยวกับการเสด็จฯ พร้อมพระราชดำรัสของพระองค์ท่านที่ทรงตรัสไว้ว่า “ฉันฝากเด็กชาวเขาเหล่านี้ด้วย ตัวฉันอยู่ไกล ครูดูแลด้วยน่ะ“ สะท้อนถึงความห่วงใยที่ทรงมีต่อเด็กๆ ชาวเขา

 

พรนันทน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์และท่องเที่ยวมูลนิธิโครงการหลวง เล่าว่า “ดอยอ่างขาง เป็นสถานีเกษตรหลวงแห่งแรกของโครงการหลวง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดช พลิกไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว ด้วยความยากลำบากตลอดระยะเวลาที่เกิดขึ้น เริ่มแรกพ่อหลวงทรงเล็งเห็นว่า การปลูกพืชเมืองหนาวสร้างรายได้มากกว่าการปลูกฝิ่น โดยให้ชาวเขาและชาวบ้านเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่มีการไปรับสั่งว่าทุกคนต้องทำ เพราะเมื่อเขาเห็นคนหนึ่งทำแล้วประสบความสำเร็จ คนต่อๆ ไปก็จะปลูกตาม ซึ่งชาวเขาที่ปลูกพืชผักก็ยังจะคงดำเนินงานต่อไป เพื่อให้ชาวไทยได้บริโภคผักสดๆ ไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่ทำให้โครงการหลวงประสบความสำเร็จอย่างมาก คือ การทำงานแบบลดขั้นตอน พระองค์ท่าน ทรงพระราชทานคำว่า ‘ลดขั้นตอนเร็วๆ เข้า’ ทุกอย่างจึงสำเร็จง่ายดาย ปัจจุบันมีสถานีเกษตรหลวงทั้งสิ้น 38 แห่งบนภาคเหนือ และกำลังจะมีสถานีที่ 39 ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ อ.แม่ละมาด จ.ตาก ทันทีที่พระองค์ท่านทรงทราบว่า ที่นั่นมีการลักลอบปลูกฝิ่น และชาวบ้านยังมีความเป็นอยู่อย่างลำบาก ท่านจึงรีบสั่งการให้เจ้าหน้าที่หลวงเข้าไปพัฒนา ตามรูปแบบเดียวกับสถานีทุกแห่งที่เกิดขึ้น ขณะนี้ก็ยังพัฒนาต่อไป และยังมีการนำรูปแบบนี้เข้าไปถ่ายทอดให้แก่ประเทศที่ยังมีการปลูกฝิ่นอีกด้วย ซึ่งทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่พระองค์ทรงพระราชทานให้พวกเรายังคงอยู่และจะมีการดำเนินงานที่เจริญก้าวหน้าต่อไปในอนาคต”

 

ยะ มอเมือง เกษตรกรหมู่บ้านนอแล เล่าว่า “เมื่อตอนที่อาศัยอยู่พม่า เราอยู่กันอย่างยากลำบาก ทั้งยังเกิดสงครามบ่อย จนได้ข่าวว่าในหลวงท่านจะเสด็จมาอ่างขาง ผมและเพื่อนๆ อีกประมาณ 50 คนก็รีบเดินทางมาที่ประเทศไทย เมื่อได้รับเสด็จก็เลยทูลขอกับพระองค์ว่า ขออยู่ที่เมืองไทยด้วยได้ไหม ขอเป็นลูกเป็นหลานท่าน ท่านก็ทรงอนุญาต แต่พระองค์ตรัสว่า ถ้ามาอยู่ ต้องอยู่แบบมีหนทาง คือต้องทำเกษตรให้มีรายได้ เพราะต้องกินต้องใช้ พอมาอยู่ ในหลวงท่านก็ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลทุกอย่าง ให้หม้อ ให้ชาม มีที่อยู่อาศัย มีที่ทำมาหากิน พระองค์รักคนในแผ่นดินเสมอกัน ท่านไม่เคยคิดว่าเราเป็นชนเผ่าเล็กๆ ไม่ต้องสนใจก็ได้ ท่านไม่ใช่แบบนั้น ตอนมาอยู่แรกๆ ผมปลูกต้นบ๊วย, ท้อพื้นเมือง และต้นยูคาลิปตัส ต่อมาจึงปลูกผักอินทรีย์, ผักออร์แกนิก, ชา ฯลฯ แล้วก็มีการกิน-อยู่ที่ดีขึ้น ท่านตรัสเสมอว่า ถ้ามาอยู่เมืองไทย ต้องปลูกต้นไม้เพิ่ม ถ้าไม่มีเรา ป่าอยู่ได้ แต่ถ้าไม่มีป่า เราอยู่ไม่ได้ ในชีวิตนี้สิ่งที่ภูมิใจมากที่สุด คือเราได้อยู่ในสมัยในหลวงร.9”

 

ด้านลูกค้าคนสำคัญของ ท็อปส์ ทพญ.อังคณา ที่ควงคู่มากับลูกสาว จณิสตา ปิตากุลดิลก เผยว่า “ทริปนี้เป็นอีกหนึ่งทริปที่จะอยู่ในความทรงจำของเราไปตลอด เพราะได้มาเรียนรู้การดำเนินงานของสถานีเกษตรหลวง อ่างขางอย่างใกล้ชิด ซึ่งลูกสาวชอบทานผักมาก พอได้มาสัมผัสตั้งแต่กระบวนการผลิต ทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า กว่าจะได้ผักอินทรีย์ ผักออร์แกนิคมาแต่ละต้นแต่ละใบ ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งจะทำให้น้องรู้ถึงคุณค่าของผักมากขึ้น และน้องเป็นคนรักในหลวงมาก พอได้มาฟังได้มาสัมผัสเรื่องราวของท่านน้องยิ่งซาบซึ้งใจ ด้วยความที่ยังเด็ก เขาก็ถามแม่ว่า ทำไม ในหลวงต้องทำเพื่อเราขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้รู้จักกัน ไม่เคยเจอกัน ตอนที่ถามจบเขาก็น้ำตาคลอเลย ดีใจที่เขาได้มาเจอ มาสัมผัสอะไรแบบนี้ ขอบคุณ ท็อปส์ มากค่ะ”

 

ส่วน เชฟเอียน-พงศ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย เผยว่า “รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมากครับ ที่ได้มารังสรรค์เมนูให้ลูกค้าคนสำคัญของท็อปส์ทาน โดยเฉพาะกับดินเนอร์มื้อพิเศษที่ผมได้เลือกวัตถุดิบจากโครงการหลวงมาเป็นส่วนผสมสำคัญ อาทิ มะเขือเทศ, โรสแมรี่ จากสวนบ๊วย, ผักฉ่อย, สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์พระราชทาน 80 และไข่ปลา สเตอร์เจียน (Sturgeon) การได้มาเห็นได้มาเลือกผัก – ผลไม้สดๆ จากแปลงด้วยตัวเอง เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ เราไม่

 

ต้องกังวลเรื่องสารเคมี หรือความสะอาด เพราะที่อ่างขางนั้นจะให้ความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิตและให้ความสำคัญกับการทำเกษตรอินทรีย์มาก เราสามารถทานผักสดๆ จากแปลงได้เลย นอกจากนี้ยังได้ขนวัตถุดิบ เครื่องปรุงชั้นดีมาจากเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ปรุง 4 เมนูพิเศษ โดยแต่ละจานนอกจากใส่ความพิถีพิถันในการปรุงแล้ว ทุกจานเปี่ยมไปด้วยความใส่ใจหวังว่าทุกท่านจะชื่นชอบครับ”

 

นอกจากนี้คณะท็อปส์ ทั้งผู้บริหาร และผู้ร่วมทริป ยังเดินทางไปมอบสิ่งของจำเป็น แก่ทหารที่ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล และที่ขาดไม่ได้ โครงการ ไร่นี้คือการ “ฮัก” ปีที่ 4 มอบเสื้อกันหนาว ขนม พร้อมร่วมบริจาคเงินให้กับนักเรียน และครู ศูนย์เด็กเล็กบ้านหนองเขียว เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางตามรอยพระบาทที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ย้อนรอยความทรงจำ และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าคนพิเศษอย่างมากมาย



ดูผลงานปี 2559       • ย้อนกลับ ดูผลงานปี 2560
___________________________________________________________________________________________________________________


Copyright @ Polyplus PR Co., Ltd. All rights reserved.

99 หมู่ 1 ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 โทรศัพท์ 0 2572 4444 แฟ็กซ์ 0 2572 4453
99 Moo 1 Jaengwattana Soi 43, Jaengwattana Rd., Tumbol Klongkrua, Pakkret District, Nonthaburi 11120 Tel : 0 2572 4444 Fax : 0 2572 4453